วิเชียร ไชยบัง
ผมกลัวการวาดรูปมาตั้งแต่เรียนชั้นประถม ประหม่าที่จะแต้มสี ลงไปบนรูป. ซึ่งเด็กในโรงเรียนส่วนหนึ่งประเทศเราคงมีประสบการณ์คล้ายผม ชั่วโมงศิลปะมีอย่างน้อยนิดในหลักสูตร และ ด้วยความอัตคัดของโรงเรียนบ้านนอกครูมักจะวาดรูปไว้บนกระดานดำแล้วให้พวกเราลอกตาม ผมจำภาพอันตราตรึงนั้นได้เสมอตราบจบวันนี้หรืออาจทั้งชั่วชีวิตนี้ ภาพใหญ่บนกระดานดำ วาดด้วยชอร์กเป็นภาพทิวทัศน์ ที่มีภูเขาสองลูก มีแม่น้ำแหกลงมาจากกลางภูเขา เหนือภูเขาสองลูกก็มีดวงอาทิตย์แดงฉานส่องแสงจ้าสาดรังสีเป็นเส้น ข้างลำน้ำเป็นกระท่อม ที่มีลอมฟาง และมีต้นมะพร้าวสองต้นที่มีลูกเป็นพวง เราต้องว่าตามนั้นให้ทันในชั่วโมง ครูยังเร่งให้เราใครเสร็จก่อนไปตรวจก่อน ผมมักได้คะแนน 6 เต็ม10 กอปรกับความเชื่อของพ่อแม่ที่ว่า งานวาดรูปเป็นงานของพวกศิลปิน เป็นพวกที่เรียนวิทย์เรียนคำนวณไม่เก่ง เป็นงานที่ไม่ได้อยู่ในกระแสความต้องการของพ่อแม่ จนมีคำพูดติดปากว่าพวกศิลปินไส้แห้ง
วิเชียร ไชยบัง ภาพจากเว็บ The Cloud https://readthecloud.co/ |
ผมเติบโตขึ้นโดยที่ไม่ได้แยแสต่อศิลปะ ไม่นึกถึงการวาดรูป. วันต่อวันคือดิ้นรนขวนขวายเรียนจนได้งานตามกระแส และทำงาน จนงานก็รุมกินหัว ยุ่งวุ่นวายกับงานกับชีวิตตลอดอยู่ตลอดเวลา ทำทุกวัน ทำมากทุกวันแต่เหมือนงานมันไม่เคยหมดสักทีมีแต่มากขึ้นและยุ่งขึ้น
กว่าจะตระหนักว่ามีบางสิ่งในชีวิตที่ขาดไปก็ล่วงเลยเวลาไปมากโข
ผมพบว่าตัวเองอยากวาดรูปจริงๆ เมื่อ อายุปาจะเข้า 50 ไปแล้ว เริ่มชอบดูงาน ของศิลปิน ผู้ยิ่งใหญ่ หลายๆ ท่าน ช่างน่าอัศจรรย์เหมือนเทวดาสรรค์สร้าง แต่เมื่อกลับมาดูมือตัวเองกลับว่างเปล่า ไม่มีทักษะ ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวาดรูปเอาเสียเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องใช้ อุปกรณ์อะไรบ้าง ใช้สีอย่างไร แสงเงาเป็นอย่างไร สัดส่วนเป็นอย่างไร ไม่รู้ทั้งไม่มีทักษะ ซ้ำร้ายผลการตัดสิน 6 เต็ม 10 คะแนน ก็ยังตามหลอกหลอน
ผมเริ่มจากไปเรียบเคียงถามจากเจ้าของร้านขายสีและอุปกรณ์วาดภาพสำหรับนักศึกษา
แล้วเริ่มหลบๆ วาดเมื่อมีเวลาว่าง แอบทำผิดๆ ถูกๆ มั่วๆ ไปเรื่อย บางเฟรมต้องทิ้งเพราะสีมันเละเทะ
พักหลังแม้ไม่ว่างก็ทำให้มีเวลา ผมวาดเพราะอยากวาด ไม่ได้สื่อสารอะไร ไม่ต้องการที่จะให้ใครมาค้นพบอะไรจากภาพที่ผมวาด
ผมเคยยืนวาด 4 ชั่วโมง แบบที่เหมือนกับการได้หายไปจากโลก หายจากการรับรู้โลก ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ 4 ชั่วโมง มารู้ตัวว่าเจ็บฝ่าเท้าปวดขาเอาตอนที่เลิกทำ ขณะวาดผมรับรู้แค่การเคลื่อนไหวของมือ สี แสง เงา และการเกิดขึ้นของบางสิ่งบนพื้นผ้าใบซึ่งตัวภาพเองมันไม่มีความหมายอะไร แต่ ณ กาลนั้นกลับเป็นสภาวะอันอ่อนโยน เบาสบายและลื่นไหล ผ่านแค่ลมหายใจและการเคลื่อนไหวของมืออย่างแผ่วเบา
ผมอิ่มเอมทุกครั้งที่จบงาน นอนสูดกลิ่นลินสีดหลับอย่างมีความสุข ดื่มกินอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย เสมือนงานวาดนั้นเติมพลังชีวิตให้แก่ผม
วันนี้ผมไม่ได้กลัวการวาดภาพหรือลงสี ไม่ได้กลัวว่าจะสวยหรือไม่สวย และไม่ต้องการให้ภาพสื่อสารอะไร
ผมวาดภาพไว้เพื่อประดับการหายใจเท่านั้น และ ลมหายใจก็งดงาม
วิเชียร ไชยบัง
ภาพทั้งหมดเพื่อสมนาคุณสำหรับผู้บริจาคเพื่อการศึกษาการกุศล ซึ่งดำเนินการโดย โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ติดต่อจองภาพได้ที่ 086-639-2177
Comments
Post a Comment